มาปัดฝุ่นในคำจำกัดความก่อนจะกระโดดเข้าสู่เรื่องนี้กัน – การตลาดแบบพันธมิตรในบริบทของฟอเร็กซ์ คือเมื่อคุณชี้นำผู้เข้าชม ในกรณีนี้คือผู้ที่มีโอกาสสูงที่จะเข้ามาเป็นเทรดเดอร์ ไปยังเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มสำหรับการเทรดของโบรกเกอร์ภายนอก
แม้นั่นอาจฟังดูเหมือนกระบวนการและเวิร์กโฟลว์ที่เรียบง่าย แต่ก็มีองค์ประกอบมากมายที่กำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของพันธมิตรด้านการตลาดฟอเร็กซ์ วิธีเดียวที่พาร์ทเนอร์พันธมิตรจะได้รับค่าคอมมิชชันคือเมื่อผู้มีแนวโน้มเข้าเป็นลูกค้า หรือลูกค้าเป้าหมาย กลายมาเป็นลูกค้าโดยการคลิกผ่านลิงก์ของพวกเขา ลงทะเบียนกับโบรกเกอร์ และฝากเงินเข้าบัญชี
ซึ่งนั่นทำให้เกิดคำถามต่อไปนี้ทันที:
- การผ่านเกณฑ์ของผู้เข้าชมของคุณเป็นอย่างไร และกรองผู้ไม่มีเจตนาที่จะเทรดออกอย่างไร?
- คุณจะมั่นใจว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของโบรกเกอร์จะทำขั้นตอนสุดท้ายและเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด นั่นคือฝากเงินเข้าบัญชีของพวกเขาได้อย่างไร?
- คุณเปลี่ยนความสนใจและความตั้งใจเป็นการกระทำได้อย่างไร?
นี่คือเคล็ดลับการตลาดแบบพันธมิตร 5 ข้อที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้คุณในปี 2022
1. เสนอเนื้อหาที่มีคุณค่า นำไปใช้ได้จริง และฟรี
เราอยู่ในยุคที่เนื้อหาคือราชา แบรนด์ต่างๆ เข้าใจและยอมรับคุณค่าของการเล่าเรื่องและการนำเสนอเนื้อหาที่ทั้งให้ข้อมูลและความรู้แก่ลูกค้า ผู้ติดตาม และผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของตนอย่างสม่ำเสมอ
การสื่อสารผ่านเนื้อหาจะสร้างสายสัมพันธ์แห่งความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือกับกลุ่มเป้าหมาย ยุคสมัยที่เนื้อหาทุกชิ้นที่ออกโดยบริษัทมีวัตถุประสงค์เพื่อขายหรือเพิ่มยอดขายเพียงอย่างเดียวนั้นหมดไปแล้ว ผู้คนบริโภคเนื้อหาเพื่อความบันเทิง ความรู้ และการพัฒนาตนเอง
นี่คือสิ่งที่นักการตลาดแบบพันธมิตรในยุคปัจจุบันควรคำนึงถึงเมื่อทำการสร้างเนื้อหาที่สร้างโอกาสสำหรับผู้มีแนวโน้มเข้าเป็นลูกค้า พยายามฟูมฟักแทนที่จะบังคับคนให้เข้ามาเทรด ช่วยให้พวกเขาเห็นคุณค่าที่สามารถนำมาสู่ชีวิตของพวกเขาได้ และที่สำคัญที่สุดคือแสดงให้พวกเขาเห็นว่าต้องทำอย่างไร
ผู้คนแสวงหาความรู้ แสวงหาคำแนะนำที่สามารถทำให้พวกเขาได้เปรียบเหนือการแข่งขัน การใช้เวลาสร้างเนื้อหาที่ทำให้พวกเขาเป็นเทรดเดอร์ที่เก่งขึ้นจะทลายอุปสรรคระหว่างนักการตลาดแบบพันธมิตรกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า ผู้คนจะแสดงความขอบคุณต่อคุณภาพของเนื้อหาโดยดำเนินการตามช่องทางการขายและเข้าใกล้สู่การฝากเงินเข้าบัญชีมากขึ้น
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือเนื้อหาที่นำไปใช้ได้จริงนั้นจะมีค่ามากกว่าเสมอ โดยทั่วไป ความตั้งใจของลูกค้าจะผูกอยู่กับการเรียนรู้ว่าคุณจะทำอะไรได้บ้าง เนื้อหาอย่างเช่นวิธีการ คำแนะนำ เคล็ดลับ กลยุทธ์ และเครื่องมือต่างๆ จะเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากกว่า
2. เลือกพาร์ทเนอร์ฟอเร็กซ์ที่เหมาะสม
การลงทุนลงแรง การหาเทรดเดอร์รายใหม่ ดูแลฟูมฟัก และเตรียมพวกเขาให้พร้อมและตื่นเต้นกับการเริ่มเทรดจะมีประโยชน์อะไร ถ้าปลายทางไม่ได้ถูกเตรียมไว้หรือไม่พร้อมที่จะรับพวกเขา การเลือกพาร์ทเนอร์ฟอเร็กซ์ที่เหมาะสมในการทำงานด้วยเป็นรากฐานของความพยายามทางการตลาดแบบพันธมิตรฟอเร็กซ์ที่ประสบความสำเร็จ
สิ่งที่คุณควรมองหาคือ:
- ชื่อเสียงของแบรนด์
- ความง่ายในการเริ่มต้นใช้งานของลูกค้า
- แพลตฟอร์มใช้งานง่ายเพียงใด
- ความโปร่งใสในการรายงาน
- คะแนนการบริการลูกค้า
หากโปรแกรมพันธมิตรที่คุณลงทะเบียนด้วยมีสิ่งเหล่านี้ แสดงว่าคุณมีรากฐานที่มั่นคงในการขับเคลื่อนรายได้ของคุณให้สูงขึ้นไปอีกขั้น
3. ทำซ้ำ ปรับเปลี่ยน ปรับปรุง
อุตสาหกรรมฟอเร็กซ์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมออย่างที่อุตสาหกรรมควรเป็น การนิ่งเฉยพักผ่อนอยู่บนหอคอยงาช้างเป็นวิธีที่รับประกันได้ว่าธุรกิจจะเจ๊งแน่นอน นักการตลาดแบบพันธมิตรที่ประสบความสำเร็จคือคนที่เข้าใจธรรมชาติของเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอในอุตสาหกรรมและพร้อมเสมอที่จะปรับเปลี่ยนหากจำเป็น
เมื่อเราพูดถึงการปรับเปลี่ยนและการเปลี่ยนแปลง สิ่งเหล่านี้อาจหมายถึง:
- รูปแบบเนื้อหาและสื่อ เช่น คู่มือ วิธีการ อีเมล การสัมมนาผ่านเว็บ
- หัวข้อ เช่น ความสนใจของเทรดเดอร์เปลี่ยนไปทุกวัน ตั้งแต่การเจรจาการค้าไปจนถึงสงครามและโรคระบาด
- การไหลบ่าเข้ามาของข้อมูลใหม่ เช่น การมอบข้อเสนอใหม่ให้พวกเขา
4. ใส่ใจในการออกแบบและพัฒนาทรัพย์สิน
ความประทับใจแรกเห็นมีความสำคัญ – เราต่างเคยเจอหน้าเว็บที่น่าเกลียดหรือช้าเกินไปที่จะทำให้เราอยากดูต่อและปิดทิ้งไปเลยในไม่กี่วินาที ผู้คนถูกถล่มด้วยเนื้อหาและข้อมูลทุกวัน และเพื่อให้ได้มาซึ่งเวลาและความสนใจจากพวกเขา คุณต้องลงทุนในการออกแบบและการกำหนดค่าทางเทคนิคในเนื้อหาของคุณ
ไม่ว่าคุณจะกำลังสร้างหน้า Landing Page, อีเมล หรือแบนเนอร์ การออกแบบของคุณต้องเรียบหรู คมชัด และตรงประเด็น องค์ประกอบต่างๆ ต้องทำงานกันอย่างกลมกลืน โหลดได้ตามที่ควร และช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นไม่ถูกขัดขวาง
5. ทำลิงก์ให้สั้นและเหมาะกับ SEO
ลิงก์พันธมิตรมักจะยาว น่าเกลียด เกะกะ และไม่น่าคลิก เพื่อให้ตัวคุณมีอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ที่สูงขึ้น คุณต้องให้ความสนใจกับความยาวและองค์ประกอบของลิงก์
จากงานวิจัยของ Backlinko เว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวกับ SEO พบว่า URL ที่มีคีย์เวิร์ดมีอัตราการคลิกผ่านสูงกว่า 45% เมื่อเทียบกับ URL ที่ไม่มีคีย์เวิร์ด งานวิจัยที่ต่างออกไปโดยบริษัทเดียวกันพบว่าความยาว URL เฉลี่ยสำหรับผลลัพธ์ 10 อันดับแรกใน Google คือ 66 ตัวอักษร
การทำลิงก์ให้สั้นและใส่ชื่อโบรกเกอร์ในลิงก์จะทำให้ CTR ของคุณพุ่งสูงขึ้น
เกี่ยวกับโปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ BDSwiss
โปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ BDSwiss ที่ได้รับรางวัล ‘Best Affiliate Programme’ ในปี 2020 จาก Global Banking and Finance ที่มีชื่อเสียง เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ให้ความได้เปรียบสูงที่สุดในอุตสาหกรรม โดยมีค่าคอมมิชชันสูง แผนการแนะนำย่อย และรางวัลเพิ่มเติม
ยังไม่ได้เป็นพาร์ทเนอร์ใช่ไหม? เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ BDSwiss ได้ทั้งในฐานะ IB, พันธมิตร หรือมาสเตอร์เทรดเดอร์